วันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เรื่องของ อาชีพนักสืบ

อาชีพนักสืบ

     บทความวันนี้ ผมขอกล่าวถึง อาชีพ นักสืบ  พอดีไปอ่านบทความเกี่ยวกับอาชีพของนักนักสืบมา ก็เลยเอามาสรุปให้ทุกท่านได้อ่าน และ ถือเป็นสาระความรู้ให้กับทุกท่านไปเลยแล้วกันนะครับ

     เมื่อเอ่ยถึงอาชีพนักสืบ คนทั่วไปอาจนึกถึงหนังเรื่องเจมส์บอนด์ 007 หรือไม่ก็หนังฮอลลีวู้ดแนวสืบสวนสอบสวน แต่นั่นคือโลกของการแสดง เพราะในโลกของความเป็นจริงงานของนักสืบนั้น เป็นการหาข่าวในระบบทีมเวิร์กและใช้ไหวพริบปฏิภาณอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับบทบาทของพระเอกในหนังที่วางมาดเท่ และเก่งคนเดียวก็ได้


      งานคือเงิน วันนี้จะพาท่านไปสัมผัสชีวิต  นักสืบ เพื่อสะท้อนแง่มุมในการทำงานให้ผู้อ่านได้รับทราบว่า ในแต่ละวันกลุ่มคนเหล่านี้ต้องทำงานกันแบบไหน และประสบปัญหาอะไรกันมาบ้าง

      อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่างานของ นักสืบ เป็นการสืบหาข่าวเพื่อค้นหาความจริงในสิ่งที่ผู้ว่าจ้างอยากรู้แต่ไม่รู้ มีตั้งแต่สืบเรื่องชู้สาว สืบจับบุคคลตามหมายศาล เช่น คดีเช็ค คดีฉ้อโกง การสืบพฤติกรรมบุคคลหรือสะกดรอยตามโดยไม่ให้เป้าหมายรู้ตัว และการ สืบหาทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ยักย้ายถ่าย
เททรัพย์สิน เป็นต้น

      โดยเรื่องฮิตที่คนส่วนใหญ่มีปัญหาและมาใช้บริการกันมากที่สุด คือ การสืบชู้สาว และนับวันก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้น เหตุผลง่าย ๆ ก็เพราะความต้องการทางกามารมณ์ของมนุษย์ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสามีต้องการมีเมียน้อย เมียเก็บ หรือคู่ขาคู่ซ้อมและแม้กระทั่งนางทางโทรศัพท์ และ หมอนวด

      รูปแบบการทำงานของ นักสืบ แรกเริ่มก็ต้องพูดคุยทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ว่าจ้างต้องการให้สืบเสียก่อนว่าต้องการให้ทำอะไร ถ้าจะให้ติดตามสามีก็ต้องให้ข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับสามี ได้แก่ รูปถ่ายที่เป็นปัจจุบัน ขับรถอะไร สีอะไร ขับไวแค่ไหน ขึ้นทางด่วนไหม เลขทะเบียนอะไร มีคนขับหรือไม่ แล้วสเปกของผู้หญิงที่สามีชอบเป็นแบบไหน ตั้งแต่หน้าตา ทรวดทรงองค์เอว สูงยาวเข่าดี หรือชอบผู้หญิงแบบหมอนวด แบบนักศึกษา สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องบอกมาให้หมด

      หลังจากนั้นก็เป็นการขอทราบข้อมูลช่วงเวลาเดินทางเข้าออกของสามีผู้ว่าจ้างเพื่อประโยชน์ในการสะกดรอยตาม ซึ่งวิธีการสะกดรอยต้องตระเตรียมอุปกรณ์ เช่น กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์ถ่ายรูปได้ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ให้พร้อมและทำการตรวจสอบเส้นทางก่อนเพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการทำงาน อาทิ การดูทางหนีทีไล่ซอยตรง ซอยตันหรือไม่ ต่อจากนั้นก็เป็นการแบ่งหน้าที่กระจายงานกันไปทำทีมหนึ่งมีประมาณ 3-4 คน คนหนึ่งดูต้นทางเมื่อเป้าหมายเคลื่อนไหวให้แจ้งให้   นักสืบ  อีกทีมทราบเพื่อสะกดรอย ที่สำคัญในการทำงานทุกครั้งจะลืมเรื่องบันทึกภาพความเคลื่อนไหวของเป้าหมายไม่ได้เป็นอันขาด

      โดยเฉพาะภาพช็อตเด็ด เช่น กอดจูบลูบคลำ ถอดเสื้อผ้าและเสื้อใน เพราะถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญที่ผู้ว่าจ้างต้องการใช้พิพากษา สามีตัวเอง โดยทั่วไปผู้ว่าจ้างที่เป็นภรรยาหลวงต้องการให้เข้าถ่ายถึงในห้องนอนขณะที่สามีกำลังเข้าได้เข้าเข็มกับภรรยาน้อยอยู่ ถ้าหาก นักสืบ คนไหนทำได้หมายถึงการได้รับเงินรางวัลตอบแทนก้อนโตทีเดียว ส่วนวิธีการทำงานสืบเรื่องอื่น ๆ เช่น  การสืบทุจริตในองค์กร โดยมากผู้ว่าจ้างมักจะเป็น บริษัทใหญ่ มีคนต่างชาติเป็นเจ้าของ ต้องการให้สืบปัญหาคอร์รัปชัน การสืบประวัติของลูกน้องที่ส่งมาดูแลกิจการในประเทศไทย หรือให้สืบ เรื่องทุริตน้ำมัน ซึ่งต้องใช้ทีมงานเยอะชุดหนึ่งประมาณ 20-30 คน เพราะคนเหล่านี้ทำเป็นขบวนการ การทำงานจึงต้องระมัดระวังตัวสูงและควรประสานตำรวจท้องที่ไว้ล่วงหน้าด้วย

      เวลาในการทำงานของอาชีพนี้ไม่แน่นอน และไม่มีวันหยุด วันลาหรือแม้แต่วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็ไม่มี ขึ้นอยู่กับงานเป็นหลัก ซึ่งต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา เนื่องจากคนที่ทำผิดหรือนอกใจภรรยา เขาไม่ได้มาบอกให้รู้ล่วงหน้าหรอก งานจึงไม่เป็นเวลาบางครั้งต้องเฝ้าทั้งวันทั้งคืนผลัดเปลี่ยนกันเข้ากะทำงาน แต่โดยทั่วไปการทำงานของ นักสืบ จะใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อวันและไม่เกิน 7 วัน

      รายได้และสวัสดิการของ  นักสืบ  ขึ้นอยู่กับปริมาณงาน ลักษณะงานและชื่อเสียงของนักสืบ ถ้าชื่อเสียงดีมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างนี้รายได้มากแน่ เพราะลูกค้าเยอะ โดยประมาณ การนักสืบคนหนึ่งสามารถมีรายได้ตั้งแต่ 10,000-1,000,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนสวัสดิการส่วนมากจะมีประกันสังคมให้อย่างเดียว

      เดชา กิตติวิทยานันท์ วัย 42 ปี ผู้คร่ำหวอดวงการนักสืบ กว่า 20 ปี เจ้าของบริษัท นักสืบ เดชา แอนด์ ไอบีเอส จำกัด เล่าว่า อาชีพ นักสืบ เป็นงานที่ต้องใช้ความอดทน ประกอบกับความสามารถหลากหลาย เช่น ไหวพริบดี หูตาไว จดจำคำสั่งได้ดี เข้ากับคนเก่ง ใช้อุปกรณ์ไฮเทคได้ ขับรถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์เป็น สุขภาพแข็งแรง ไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากจะทำก็ทำได้ ประเภทชอบสะเหร่อ โง่ เซ่อ
เอ๋อ อยากรวยแต่ใจไม่รักอย่างนี้ไม่ต้อง มาเพราะเสียเวลาเปล่า มันต้องมีพรสวรรค์มาด้วยยิ่งถ้าได้ผู้หญิงเป็น นักสืบ จะดีมาก เพราะเป้าหมายไว้ใจ ไม่ระแวง เข้าถึงง่าย ถ้าได้คนหน้าตาดี หุ่นดี แต่งตัวเซ็กซี่ พูดจาฉอเลาะซะหน่อย งานจะสำเร็จได้ไว

      โดยทั่วไป การเข้ามาเป็น นักสืบ  ต้องมีการฝึกสอนกันก่อน ปกติใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนจึงให้ออกพื้นที่แรก ๆ จะให้เฝ้าอย่างเดียว จะเสียเวลาเยี่ยว ขี้ไม่ได้ ต้องนั่งทั้งวันในรถตู้เพื่อสังเกตเป้าหมาย ห้ามติดเครื่องยนต์เปิดแอร์เด็ดขาด ปิดกระจกอย่างเดียวและระหว่างนั่งอย่ามีพิรุธ ต้องระวังขาเสือก ซึ่งนักสืบกลัวที่สุด คำถามยอดฮิตที่ชอบถามคือ “พี่รอใคร มาทำอะไรแถวนี้” นักสืบต้องใจเย็น ห้ามทะเลาะและตอบโดยไม่ให้สงสัย ส่วนปัญหาอื่นที่นักสืบเจอคือการขับรถตามเป้าหมายซึ่งจะต้องคิดแทนว่าเป้าหมายจะไปทางไหนตลอดเวลา หรือการต้องทะเลาะกับตำรวจ บางทีก็ถูกสอบสวนหาว่าเป็นมือปืน หรือถูกหมากัดก็มี ซึ่งเป็นสิ่งที่คนอาชีพนี้หลีกเลี่ยงได้ยาก”


ขอบคุณที่อดทนอ่านบทความนี้นะครับ ขอให้บทความนี้ เป็นประโยชน์แด่ท่านผู้อ่านทุกๆ ท่านนะครับ



อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ > งานสืบ > นักสืบ  กับ นักสืบยุทธนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น